การแบ่งแยกโซนแห้งและโซนเปียกอย่างเป็นสัดส่วน จะช่วยทำให้การทำความสะอาดห้องน้ำง่ายและสะดวกขึ้น แถมยังช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในห้องน้ำได้อีกด้วย.. นอกจากการแบ่งแยกโซนห้องน้ำโดยใช้ ฉากกั้นห้องน้ำ กระจกกั้นห้องน้ำ ตู้อาบน้ำ แล้วนั้น ผ้าม่านอาบน้ำ ผ้าม่านห้องน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการแบ่งแยกโซนแห้งและโซนเปียกในห้องน้ำได้ดีอีกด้วย
วันนี้ WSP จะมานำเสนอข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับผ้าม่านอาบน้ำหรือผ้าม่านห้องน้ำว่ามีกี่ประเภท? และ ในแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร? ที่จะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกใช้ผ้าม่านอาบน้ำ ที่มีวัสดุและคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำที่บ้านของคุณ
ผ้าม่านอาบน้ำ 4 ประเภทมีอะไรบ้าง ? 1. ผ้าม่านอาบน้ำ EVA (Ethylene Vinyl Acetate) ผลิตจากวัสดุโฟมพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ หากเกิดการเผาไหม้ วัสดุจะไม่ลามไฟ และ ไม่ก่อให้เกิดแก๊สพิษไฮโดรคลอริคที่เป็นสารพิษอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต
คุณสมบัติ
เนื้อพลาสติกยืดหยุ่นได้ดี แข็งแรง ทนทาน กันน้ำ กันเชื้อรา ไร้กลิ่นอับ ผิวพลาสติกมีการเคลือบ LDPE เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันการสะสมของแบคทีเรียลดการก่อเชื้อรา
2. ผ้าม่านอาบน้ำ PEVA (Polyethylene Vinyl Acetate) เป็นพลาสติกผสมระหว่างพอลิเมอร์ของ PE และ EVA ซึ่งเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลาสติกไม่มีกลิ่น ปราศจากสารคลอไรด์ ปลอดภัยต่อเด็ก
คุณสมบิติ
ยืดหยุ่นได้ดี แข็งแรง ทนทาน หนา ไม่ฉีกขาดง่าย กันน้ำ กันเชื้อรา ปลอดสารพิษ ไร้กลิ่นอับ เนื้อผ้าม่านพลาสติกไม่หนาและไม่บางจนเกินไป ทำความสะอาดได้ง่าย มีน้ำหนักเบา
3. ผ้าม่านอาบน้ำ PVC (Poly Vinyl Chloride) เป็นพลาสติกที่สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติได้ด้วยการเติมสารเคมีส่งผลให้วัสดุไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติ
มีอายุในการใช้งานที่ทนทาน พลาสติก แข็งแรง น้ำหนักเบา วัสดุกันน้ำได้ดี ซึ่งช่วยลดการก่อให้เกิดเชื้อรา
4. ผ้าม่านอาบน้ำ Polyester ต้นกำเนิดการผลิตมาจากน้ำมันดิบหรือปิโตรเลียมซึ่งผ่านกระบวนการทางเคมีต่างๆจนมาเป็นเส้นใยสังเคราะห์พลาสติกที่มีความเหนียวกว่าผ้าที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติทั่วไป เส้นใยสังเคราะห์มีลักษณะคล้ายพลาสติกชนิดเดียวกับ PET ที่นำไปทำเป็นขวดน้ำแบบใส
คุณสมบัติ
วัสดุมีความยืดหยุ่นสูง กันความชื้น ระบายอากาศ ได้เป็นอย่างดี เนื้อผ้าแห้งไว มีน้ำหนักเบา คงรูป เคลือบสาร WR (Water-repellent) สะท้อนน้ำ ไล่น้ำเป็นก้อนออกจากผิวผ้าอย่างรวดเร็ว เคลือบสาร Care-Genic ช่วยดูแลผ้า กันเชื้อแบคทีเรียทั้ง2ด้าน เคลือบสาร WP (Water-proof) กันน้ำซึม
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนั้นแล้วผ้าม่านอาบน้ำประเภทไหนดีที่สุด ?
ทาง WSP ต้องขอบอกว่า ผ้าม่านอาบน้ำ หรือ ผ้าม่านห้องน้ำ ในแต่ละประเภท มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของวัสดุที่ใช้ผลิต , คุณสมบัติ , การออกแบบดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งก็จะมีความโดดเด่นของแต่ละประเภทที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านที่ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจเลือกใช้งาน
หากคุณไม่แน่ใจว่าห้องน้ำของคุณเหมาะกับการใช้ผ้าม่านอาบน้ำประเภทไหน สามารถติดต่อสอบถามเพื่อรับคำแนะนำจากทีมงานแอดมิน WSP
WSP ตอบโจทย์ห้องน้ำให้บ้านคุณ